วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ไถ่ชีวิตแม่วัวขาว


๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖
เรา (อดีตครูบากล้วย) กับครูบาทองพูน เณรกุน บ้านแพง เณรเมี่ยง ม่วงหัก พากันมานอนเฝ้า “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ที่ห้องพักศาลาบำเพ็ญกุศล วัดป่าโคกมน บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย 

หลวงปู่ท่านจงกรมอยู่ข้างนอกเกือบห้าทุ่ม เณรกุนมาบอกว่า หลวงปู่ท่านมีเรื่องจะคุยด้วย ถามท่านว่า พ่อแม่ครูอาจารย์มีเรื่องอะไรหรือ 
หลวงปู่ท่านถามว่า  เรามีเงินอยู่เท่าไหร่ บอกท่านว่ามีอยู่สองพันเก็บไว้กับโยม องค์ท่านบอกมันไม่พอ เราจะใช้มากกว่านั้น ถามท่านว่าหลวงปู่จะใช้เงินมากเท่าไหร่ ท่านบอกใช้เงินเป็นหมื่น...

ถ้าเป็นหมื่นผมจะบอกอาจารย์เหลียวเจ้าอาวาสให้เบิกเงินกองกลางออกมาให้หลวงปู่ องค์ท่านบอกมันเป็นเงินของสงฆ์จะเอามาใช้ส่วนตัวไม่ได้ ของสงฆ์จะต้องใช้กับส่วนรวมเท่านั้น  เงินจำนวนนี้เราจะเอามาใช้ในเรื่องส่วนตัว

ถามองค์ท่านว่าหลวงปู่จะเอาเงินไปใช้ทำอะไร ท่านบอกเราจะเอาไปซื้อวัวอยู่โรงฆ่าสัตว์เมืองเลย

แม่วัวขาวร้องไห้มาหาเรา เขามาขอให้เราไปช่วยชีวิตเขา ตอนนี้มันกำลังตั้งท้อง มันไม่อยากถูกฆ่าตาย ฟังองค์ท่านพูดแล้วตัวก็อึ้งไปเหมือนกัน...

ถามองค์ท่านว่า เขามาบอกหลวงปู่ตอนไหน องค์ท่านบอก เขามาบอกเราเมื่อสักครู่นี้เอง เราจึงเรียกท่านมาคุยด้วยเพื่อหาทางช่วยเขา 

ถามท่านว่าผู้ที่มาบอกหลวงปู่เขาเป็นวัวหรือเทวดามาบอก ท่านบอก เขามาบอกเราโดยร่างสมมุติ เป็นผู้หญิงท้องแก่ใส่ชุดขาว ร้องไห้มาบอกช่วยชีวิตข้าน้อยด้วย ข้าน้อยบ่อยากถูกฆ่าตาย...

บอกหลวงปู่ถ้ายังนั้นพรุ่งนี้ผมจะไปยืมเงินโยม มาไถ่ชีวิตแม่วัวตัวนี้ให้หลวงปู่เอง องค์ท่านบอกพระเป็นหนี้เป็นสินไม่ถูกต้องตามธรรมวินัย
เราจะพิจารณาหาทางช่วยเหลือเขาเอง 

องค์ท่านบอกเราก็เมตตาเทวดามามาก เทวดาเขาจะไม่เอื้ออำนวยให้เราบ้างหรือ เราจะพิจารณาวาสนาผู้เกี่ยวข้องกับแม่วัวตัวนี้ดู ถ้าเขามีวาสนาก็รอดมีดรอดเขียง ถ้าบ่มีวาสนาทุกอย่างก็เป็นไปตามกรรมของสัตว์โลก...

องค์ท่านนั่งนิ่งอยู่บนรถเข็นพักหนึ่ง ท่านบอกถ้าพรุ่งนี้มีคนมาหาเราตอนสิบโมงเป็นต้นไป ให้บอกเขาเรื่องแม่วัวขาว 

ถ้าคนมาก่อนหน้านั้นท่านไม่ต้องบอกเขา เพราะไม่มีวาสนาต่อกัน
ท่านอย่าไปไหนให้อยู่กับเราตลอด อยู่สงเคราะห์แม่วัวด้วยกัน
เราปากได้ (เราพูดได้) แต่อธิบายให้ท่านเป็นคนพูดแทน...๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖

วันนี้หลวงปู่หลังจากองค์ท่านฉันภัตตาหารเช้าแล้ว ท่านไม่เข้าห้องพักผ่อนเลย นิมนต์องค์พักท่านก็ไม่ยอมพัก ชี้มือใส่ทางจงกรมอยู่อย่างนั้น  หลวงปู่ท่านจงกรมอยู่ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดป่าโคกมน
ตั้งแต่เก้าโมงโดยยอมไม่หยุดพักผ่อน พระเณรต้องหมุนเวียนสลับการเข็นจงกรมให้องค์ท่าน...

สิบโมงกว่าเห็นลูกศิษย์หลวงปู่จากอำเภอชุมแพ พากันมาถวายอาหารเพลให้หลวงปู่ ทักทายปราศรัยกับโยมทางเมืองชุมแพได้สักพักเห็นรถตู้สีขาววิ่งเข้ามาจอดที่ลานเมรุ สอบถามเขาว่ามาจากกรุงเทพฯ ยังไม่เคยมากราบหลวงปู่ซักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้กราบและได้เห็นตัวจริงขององค์ท่าน จากนั้นเห็นลูกศิษย์หลวงปู่ในเมืองเลยพากันมาถวายเพลหลวงปู่...

พอได้เวลา ๑๑.๐๐ น. เป็นเวลาที่หลวงปู่ท่านฉันเพล เพื่อฉันยาประจำขององค์ท่าน  ขณะเข้าไปอุ้มองค์ท่านลงจากรถเข็น  ถามท่านว่า ที่หลวงปู่บอกว่าหลังสิบโมงใครมาหาเราให้บอกเขานั้น ใช่คนเหล่านี้หรือเปล่า องค์ท่านบอก อือ...ทั้งหมดนี่แหละ

หลังจากหลวงปู่ท่านฉันเสร็จระหว่างที่โยมถวายของให้องค์ท่าน
เราบอกกับโยมว่าหลวงปู่ท่านอยากไถ่ชีวิตแม่วัวสีขาวตัวหนึ่ง
ที่กำลังจะถูกฆ่าอยู่โรงฆ่าสัตว์เมืองเลย  โยมคนไหนอยากจะทำบุญสงเคราะห์ชีวิตแม่วัวขาวกับลูกในท้องก็ร่วมทำบุญกับหลวงปู่ได้...
พวกโยมพากันถามหลวงปู่ถึงเรื่องความเป็นมา องค์ท่านเล่าเรื่องความเป็นมาที่แม่วัวมาขอความช่วยเหลือจากองค์ท่าน 
ตอนหลวงปู่ท่านเล่าให้ฟัง โยมบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะสงสารแม่วัวตัวนี้ โยมจากกรุงเทพฯ ถามหลวงปู่ว่า ตอนนี้วัวตัวนี้ถูกฆ่าหรือยัง หลวงปู่ท่านบอกตอนนี้ยังไม่ถูกฆ่า เขากำหนดจะฆ่าในคืนนี้ พอหลวงปู่ว่าออกมา แต่ละคนควักกระเป๋าเอาเงินออกมารวมกันนับได้หนึ่งหมื่นกับเก้าร้อยบาท

โยมแป๋วบอกถ้าเงินไม่พอเขาจะรับเพิ่มให้ทั้งหมด หลวงปู่ท่านจึงมอบหมายให้โยมแป๋วกับโยมโด่งเป็นตัวแทนองค์ท่านไปไถ่ชีวิตแม่วัวขาวตัวนี้ออกมาจากโรงฆ่าสัตว์โดยองค์ท่านเน้นย้ำว่าจะต้องเป็นวัวตัวเมียสีขาวเท่านั้น อยู่โรงฆ่าสัตว์ตอนนี้มีแม่วัวสีขาวตัวเดียเท่านั้น...

๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖
เวลาบ่ายสองโมงกว่าหลังจากสรงน้ำแล้ว หลวงปู่ชอบท่านจงกรมอยู่ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดป่าโคกมน ขณะเณรดอกเข็นจงกรมหลวงปู่ท่านก็ยิ้มอารมณ์ดีอยู่อย่างนั้น หลวงปู่ท่านมองเห็นเราท่านกวักมือเรียกให้เข้าไปหา  เราก็พูดหยอกท่านว่า วันนี้คือยิ้มดีแท้พ่อพญา ใจดีม่วนนวลขาวคือดอกฝ้ายบ้อมื้อนี้

หลวงปู่ท่านยิ้ม บอกว่าวันนี้เขาจะเอาแม่วัวขาวมาให้ พอว่าจบหลวงปู่ท่านก็เอาฝ่ามือขวาตบที่เบาะพักแขนรถเข็นของท่านเสียงตุ๊บๆ กิริยานี้เป็นอีกกิริยาหนึ่งที่หลวงปู่ชอบท่านจะแสดงออกมา เมื่อเวลาที่องค์ท่านชอบใจในเรื่องนั้นๆ  คนใกล้ชิดจะรู้ในกิริยานี้ขององค์ท่านเป็นอย่างดี...

ราวสามโมงกว่ารถกระบะนิสสันบิ๊กเอ็มสีน้ำตาล บรรทุกวัวสีขาวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดที่ลานเมรุ มีรถฟร์อดสีดำลักษณะคล้ายรถเก๋งป้ายทะเบียนจังหวัดร้อยเอ็ดวิ่งตามกันเข้ามาอีกคัน 

พอเห็นวัวสีขาวแล้วเราก็ถามหลวงปู่ว่า ใช่วัวตัวนี้หรือเปล่าที่หลวงปู่ให้ไปไถ่ชีวิตเขาไว้  หลวงปู่ท่านบอกว่า วัวตัวนี้แหละ เราก็พาหลวงปู่ออกไปดูวัว บอกให้เณรดอกไปตามเจ้าอาวาสมาที่นี่ บอกว่ามีโยมเขาเอาวัวมาถวายหลวงปู่...

พอแม่วัวขาวเห็นหลวงปู่ก็ร้องมอๆ อยู่ไม่หยุด คนที่นำวัวมาส่งเป็นแขกปาทานเขาก็เอาวัวลงจากรถ พอแม่วัวขาวลงจากรถก็เดินตรงดิ่งเข้ามาหาหลวงปู่ทันที  แม่วัวขาวมาร้องมอๆ อยู่ต่อหน้าหลวงปู่ หลวงปู่ท่านยื่นมือขวาไปแตะที่หน้าของวัว  แม่วัวขาวดมที่มือของหลวงปู่และเลียที่มือขององค์ท่าน  เราก็มองว่านี่เป็นกิริยาของสัตว์แสดงออกซึ่งความรัก...

องค์ท่านหลวงปู่ชอบยิ้มพูดกับแม่วัวขาวว่า
“บ่ตายแล้วล่ะอีนาง เราจะรักษาชีวิตเจ้าไว้ ต่อไปนี้บ่มีใผ๋มาฆ่าเจ้าอีกแล้ว”โยมที่เอาวัวมาถวายหลวงปู่เห็นกิริยาของแม่วัวขาว และได้ยินองค์ท่านหลวงปู่ชอบที่พูดกับแม่วัวขาว พวกโยมพากันร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตัน...

เราเองอยู่กับองค์ท่านมาหลายปีเห็นวัวควายหลายตัวที่โยมไถ่ชีวิตมาถวายหลวงปู่องค์ท่านหลวงปู่ท่านก็รับมอบแบบธรรมดาเฉยๆ 
เห็นวัวไอ้สีเทากับแม่วัวขาวนี่แหละที่หลวงปู่ชอบท่านช่วยชีวิตออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ชนิดรอดตายจากคมมีดอย่างหวุดหวิดเส้นยาแดงผ่าแปด...

ถามโยมที่ไปไถ่ชีวิตแม่วัวขาวว่าซื้อมาราคาเท่าไร โยมบอกวัวตัวนี้ทางแขกปาทานเขาซื้อมาราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท จะให้เขาหมื่นห้าเขาก็ไม่ยอมขาย เพราะวันนี้มีวัวตัวเดียวที่จะเชือดขายตลาด เขาจึงไม่ยอมขายให้  ให้เพิ่มเป็นหมื่นแปดเขาก็ไม่ยอมขายให้อีก สุดท้ายให้สองหมื่นสามพันบาทเขาจึงตกลงขายให้พร้อมกับนำมาส่งที่วัด

โยมบอกเขาอัศจรรย์ใจในเหตุการณ์มาก พวกเขาไปที่โรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองเลย เพื่อจะติดต่อขอซื้อวัวตัวเมียสีขาว ขณะกำลังพูดคุยอยู่กับเจ้าของเขียงเนื้อ  วัวตัวนี้ร้องมอๆ ขึ้นมาเหมือนกับมันจะบอกให้รู้ว่ามันอยู่ที่นี่

พอหันไปดูเห็นวัวสีขาวตัวนี้กำลังร้องอยู่ ก็คิดว่าจะต้องเป็นวัวตัวนี้แน่นอนที่หลวงปู่ท่านให้มาไถ่ชีวิต  พอเดินไปดูถึงรู้ว่าวัวตัวนี้เป็นวัวตัวเมียสีขาวตามที่หลวงปู่ชอบท่านระบุมา พวกเขาจึงยอมทุ่มทุกอย่างถึงแม้เจ้าของวัวจะเกี่ยงราคาเท่าไหร่ตาม สุดท้ายจึงได้ช่วยชีวิตแม่วัวตัวนี้นำมาถวายหลวงปู่ที่วัด...

อาจารย์เหลียวถามหลวงปู่ว่า วัวตัวนี้หลวงปู่จะมอบให้กับใคร 
หลวงปู่ท่านบอกเราจะมอบให้ทิดคำหู บ้านผาน้อย เอาไปเลี้ยง 
อาจารย์เหลียวท่านก็ไม่ว่าอะไร หลวงปู่ท่านบอกเรา ให้ไปตามทิดคำหู บ้านผาน้อย มารับเอาวัวตัวนี้ไปเลี้ยง  เราบอกให้ทิดสุพรรณไปตามตาคำหู บ้านผาน้อย มาหาหลวงปู่ด่วนที่สุด  ทิดสุพรรณมันก็จ้ำรถมอเตอร์ไซค์ไปตามตาคำหู มาพบหลวงปู่ที่ศาลาเมรุ วัดป่าโคกมน...

หลวงปู่ท่านบอกทิดคำหูให้เอาแม่วัวขาวตัวนี้ไปเลี้ยงให้เราได้ไหม
แต่มีข้อแม้ไม่ให้ฆ่าไม่ให้ขายวัวตัวนี้ และลูกวัวที่กำลังจะเกิดตามมา 
องค์ท่านสั่งกำชับทิดคำหูว่า ห้ามฆ่าห้ามขายวัวตัวนี้เป็นอันขาด 
วัวตัวนี้เคยมีพระคุณกับแกมาก่อน ถ้าแกฆ่าหรือขายเขา เท่ากับแกทำลายผู้มีพระคุณของตนเองในอดีต 

ถ้าเลี้ยงวัวตัวนี้ไม่ได้ก็ให้เอากลับคืนมาให้เรา เราจะให้พระเณรเลี้ยงดูมันเอง ทิดคำหูรับปากหลวงปู่ว่าจะดูแลแม่วัวขาวตัวนี้ จนกว่าตายจากกันไปข้างหนึ่ง...

ต่อท้ายเรื่องแม่วัวขาว ต้นเดือนกันยายน วันที่แปด ทิดคำหูมาบอกหลวงปู่ว่าแม่วัวขาวออกลูกแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา แม่วัวขาวออกลูกเป็นวัวตัวผู้สีน้ำตาล  ตอนนี้วัวแม่ลูกคู่นี้อยู่ที่คอกนาของเขา 

หลวงปู่ท่านอยากจะไปดูลูกวัว ท่านบอกให้ตามดาบโกเมนเอารถมารับท่านไปผาน้อย เราก็ขึ้นวิทยุเรียกตู้ยามตำรวจวังไหไปหาดาบโกเมนให้มารับหลวงปู่ไปผาน้อยด่วน ดาบโกเมนรีบขับรถมารับหลวงปู่ที่วัดทันที...

หลวงปู่ท่านบอกให้ไปเอากล้วยที่โรงครัวไปเลี้ยงวัว กล้วยมีอยู่เท่าไหร่ให้ขนเอาไปให้วัวน้อยกับแม่มันกินทั้งหมด  เราก็ว่าหยอกท่าน หลวงปู่จะขนกล้วยไปเยี่ยมหลานรึไง หลวงปู่ท่านก็หัวเราะอย่างใหญ่ องค์ท่านตอบมาอย่างน่ารักมาก
“เหลือโตนชาติมันสองแม่ลูก (สงสารมันสองแม่ลูก)”
ไปถึงนาทิดคำหูหลวงปู่ท่านให้เอากล้วยไปให้วัวแม่ลูกกิน  วัวน้อยสีน้ำตาลเกิดใหม่ยังกินอาหารไม่เป็น มันก็ไม่สนใจดมดูเฉยๆ 
แม่วัวขาวกินกล้วยจนหมดเครือหนึ่ง ส่วนที่เหลือหลวงปู่ท่านบอกทิดคำหูเก็บไว้ให้วัวกินในวันหลัง หลวงปู่ท่านนั่งมองดูลูกวัวสีน้ำตาลมันวิ่งเป๋ไปเป๋มาท่านก็หัวเราะ กิริยาขององค์ท่านดูมีความสุขเหลือเกินในวันนี้...
ถามองค์ท่านว่าวัวน้อยตัวนี้หลวงปู่จะตั้งชื่อว่าอะไร หลวงปู่ท่านตั้งชื่อให้วัวน้อยสีน้ำตาลตัวนี้ว่า“บักบุญหลาย” ถามท่านว่าทำไมหลวงปู่จึงตั้งชื่อนี้ให้ องค์ท่านบอก
“ถ้าบุญมันบ่หลายมันตายตั้งแต่อยู่ในท้องแม่มันแล้ว มันบ่ได้ออกมาแล่นห่าวด่องๆ จั่งซี้ดอก (มันไม่ได้ออกมาวิ่งเล่นคึกคักอย่างนี้หรอก)”
องค์ท่านก็หัวเราะกับไอ้บุญหลาย...

เห็นไอ้ “บุญหลาย” มันวิ่งเล่นไปตามประสาวัวเด็กของมัน มันก็วิ่งเล่นอย่างคึกคักสนุกสนานจนหางตั้งหางชัน  จนตัวเองนึกสนุกไปกับมันด้วยไอ้บุญหลายเอ้ย...แกนี่ช่างบุญหลายจริงๆ เกือบตายในท้องแม่แล้วนะเอ็ง ถ้าหลวงปู่ชอบท่านไม่ช่วยแม่เอ็งไว้ในครั้งนั้น ป่านนี้ไม่รู้ว่าเขาจะแม่เอ็งไปลาบไปต้มที่ร้านไหนแล้วก็ไม่รู้...

เห็นชีวิตสองแม่ลูกที่รอดตายมาได้จาก “อริยะเมตตาฐานสโม” แล้ว ก็รู้สึกดีใจไปกับเขาสองแม่ลูก หากแม่วัวขาวไม่มีวาสนาสงเคราะห์กันกับหลวงปู่ชอบมาก่อน พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะไปสงเคราะห์เขาได้ยังไง 
เพราะบุญของแม่วัวขาวกับหลวงปู่ชอบมีความเกี่ยวเนื่องกันแท้ๆ 
พวกเราถึงได้มาสงเคราะห์กันในชาตินี้...
บันทึกโดย ครูบากล้วย - พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น