วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

คติธรรมคำสอนหลวงปู่ชอบ ฐานสโม


“อย่าคิดว่าตัวเองบุญน้อยวาสนาน้อยแล้วมาพูดให้ตัวเองท้อแท้ คิดแบบนั้นมันไม่ถูก ถ้าคิดว่าตัวเองบุญน้อยวาสนาน้อยก็รีบสร้างเสริมบารมีให้กับตัวเองให้มากยิ่งๆขึ้นไป ทำให้เต็มที่ ๆ ตัวเองทำได้ คนที่เขามีปัญญาเขาจะมุ่งหน้าทำเอา คนไม่มีปัญญาก็รอเอาแต่ลมแต่แล้ง สูญเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ 

“ให้พิจารณาความตาย (มรณานุสติ) “นั่งก็ตาย นอนก็ตาย ยืนก็ตาย เดินก็ตาย” ทุกคนมีความตายเป็นที่สุด ตายทุกเพศทุกวัย ตายได้ทุกกาลเวลา เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรประมาทในชีวิต ให้เว้นจากความชั่ว สร้างสมคุณงามความดี สร้างบุญ สร้างกุศล ไว้เป็นที่พึ่งของตน เมื่อล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว 

“อวิชชามันพาให้เกิด เมื่อถึงจะต้องตาย ก็ขอปลดอวิชชาไว้ข้างหลัง ให้เข้าป่าเข้าดงไป เราไม่ต้องการอีกต่อไป ขอให้เชื่อจิตเชื่อธรรมนั้นเถิด เป็นเอกในโลกทั้งสามนี้แน่นอน ถ้าปฎิบัติได้ ปฏิบัติจริง ปฎิบัติถูก ปฎิบัติตรง ปฎิบัติชอบ และพิจารณาได้ พิจารณาจริง พิจารณาถูก พิจารณาตรง พิจารณาชอบ แน่นอนมรรคผลนั้นคงอยู่แค่เอื้อมนั่นเอง 

“ทุกข์ในภพชาติสำหรับเรา ต่อจากนี้ไปไม่มีอีกแล้ว มันจบแล้ว การเดินทางในสายทุกข์ของเรามันสิ้นสุดแล้วในชาตินี้ ชีวิตธาตุขันธ์ที่เหลืออยู่ทุกวันนี้ ก็อยู่เพราะเมตตาสงเคราะห์สัตว์โลกผู้ที่มีวาสนาร่วมกันเท่านั้น ธาตุขันธ์แตกดับวันไหน วันนั้นก็จบกันหมดทุกอย่าง ” 

“อยากพ้นทุกข์ก็ให้ทำเอา พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ประทานให้เราไม่ได้ ถ้าอยากได้ก็ให้ลงมือทำด้วยตนเอง ความเกียจคร้านบ่เคยทำให้ใครเป็นอริยะมีแต่จะทำให้คนนั้นเป็นอะริแย่ คือแย่ลงไปเรื่อยๆหาความดีให้ตนเองไม่ได้

“เทวดาเขาบ่ได้มักมนุษย์ ที่กาย เทวดาเขามักมนุษย์ ที่ศีลธรรมของผู้นั่น"ผู้มีศีลธรรมในใจ" เทวดาเขาสิเห็น รัศมีในจิตของผู้นั่น จิตผู้มีธรรมนี่ ใจมันสิงามในใสกว่ากายนอก เทวดาผู้เขามีใจทิพย์ใจธรรม เห็นมนุษย์ผู้นั่นแล้ว เขากะฮักกะหอมอยากเข้าใกล้

“ ให้เป็นคนมีวิหารธรรมในใจ เฮือนชานบ้านช่องในจิตในใจให้เป็นไปในพุทธ ธรรม สงฆ์ ใจดวงนี้เอาอันใดใส่เป็นอันนั่น เอาบุญใส่ ใจเป็นบุญ เอาบาปใส่ ใจเป็นบาป 

“ ธรรมชาติกิเลสมันบ่เคยส่งเสริมผู้ใดไปในทางดี มันมีแต่สิพาเฮาคิดไปในเรื่องบ่ดีไห่ใจเจ้าของเศร้าหมอง อดีตผ่านไปแล้วเอามาคิดใจเจ้าของกะเป็นทุกข์ เหตุปัจจุบันเป็นทุกข์ อนาคตมันกะผลเป็นทุกข์ ไห่ปฏิบัติดีเอาในปัจจุบันที่ตนเองมีอยู่ ปฏิบัติตนในศีลธรรมแล้วใจเจ้าของกะเป็นสุข ”

2 ความคิดเห็น: